สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดีสิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติสยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาส ให้คณะกรรมการอำนวยการโครงการฯ เข้าเฝ้าทูลละลองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินงานโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามแนวพระราชดำริพร้อมทั้งนำคณะผู้บริหารสถาบันการศึกษา คณาจารย์และนักเรียนทุนพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2561 – 2564 เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(ออนไลน์) ณ ห้องประชุม วังสระปทุม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน 2564 เวลา 17.30 นาฬิกา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดีสิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติสยามบรมราชกุมารีพระราชทานพระราชวโรกาส ให้พลเอกวิชิต ยาทิพย์ ประธาน คณะกรรมการอำนวยการโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามแนวพระราชดำริ นำนายอูก ซอต์พวน (H.E.Ouk Sorphorn) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา ประจำประเทศไทย นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะกรรมการอำนวยการ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานระหว่างปี พ.ศ.2563 จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งพระราชทานพระราชานุญาต ให้ผู้บริหารสถาบันการศึกษา จำนวน 37 สถาบัน นำคณาจารย์และนักเรียนทุนพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2561 - 2564 จำนวนทั้งสิ้น 855 คน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(ออนไลน์)
ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไวกูณฑ์ ทองอร่าม รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย นำนักศึกษาในโครงการทุนพระราชทานฯ จำนวน 5 คน ร่วมเข้าเฝ้าทูลละลองพระบาทสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ณ ห้องประชุม 35201 อาคารเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2554 ถือกำเนิดจากพระราชปณิธาณในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะพัฒนาระบบการศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่เยาวชนกัมพูชา เสมือนเป็นของขวัญพระราชทานที่ยั่งยืนแก่ประชาชนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งเป็นเพื่อนกันมายาวนาน ของขวัญล้ำค่านี้คือ ระบบการศึกษาทั้งสายสามัญ และสายวิชาชีพ ทำให้เกิดโรงเรียนซึ่งจัดการเรียนการสอนสองระบบหรือ dual system อันเป็นต้นแบบของการเรียนการสอนปัจจุบัน นอกเหนือไปจากนั้นยังทรงห่วงใยในเรื่องสุขภาพอนามัยของนักเรียน ทรงเน้นว่า การศึกษาที่ดีจะต้องควบคู่ไปกับนักเรียน นักศึกษาที่มีสุขอนามัยที่ดีด้วย
การดำเนินโครงการภายใต้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 2019) ทำให้ประสบปัญหาในการเดินทาง นักเรียนที่เดินทางเข้ามาจากราชอาณาจักรกัมพูชา จะต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขไทยกำหนดเมื่อพำนักอยู่ในประเทศไทย นักเรียนทุกคนจะต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการควบคุมที่รัฐบาลไทยกำหนดภายใต้การดูแลของสถาบันการศึกษาเจ้าของทุน นักเรียนทุกคนจะเข้ารับการศึกษาผ่านระบบการเรียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) เช่นเดียวกับนักเรียนไทย การบริหารโครงการภายใต้ภาวะการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ก่อให้เกิดทักษะและความรู้ใหม่ในการบริหารโครงการแบบ New Normal ที่จะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย การประสานงานการประชุมผ่านระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์
การดำเนินโครงการที่ผ่านมาก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและความร่วมมือที่ดีระหว่างราชอาณาจักรไทย และราชอาณาจักรกัมพูชา ทั้งในภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทำให้เกิดการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่ได้รับทุนพระราชทาน เป็นบุคลากรมีคุณภาพ ทยอยกลับไปพัฒนาราชอาณาจักรกัมพูชากว่า 800 คน จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า โครงการนี้เป็นของขวัญพระราชทานที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ประกาศเมื่อวันที่ : 17 กันยายน 2564
แหล่งข่าวจากหน่วยงาน : ฝ่ายประชาสัมพันธ์