เว็บไซต์เก่า

ทอล์คเรื่องเทค : 19 แนวโน้มของสถาบันอุดมศึกษาในปี 2024: จับตามองอนาคตการศึกษา

EdTech Talks: 19 Higher Education Trends for 2024: Latest Forecasts To Watch Out For

บทความนี้ เราขอกล่าวถึงแนวโน้มของสถาบันอุดมศึกษาในปี 2024 โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของใบปริญญา เพราะก็ยังเป็นใบเบิกทางสู่ความสำเร็จในสายอาชีพ เงินเดือนที่สูงขึ้น โอกาสก้าวหน้า และสวัสดิการที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ในสภาวะตลาดงานที่แข่งขันสูงหลังวิกฤตโควิด ปริญญายังช่วยให้บัณฑิตจบใหม่สามารถเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพอิสระ สร้างโอกาสของตัวเองได้

เนื่องจากการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยส่งผลต่อโอกาสในการมีงานทำอย่างมาก บทความนี้จึงชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันมีนักศึกษายอมรับในความจำเป็นที่จะต้องจบปริญญาตรี ส่งผลให้จำนวนนักศึกษาที่มีความต้องการศึกษาต่อเพิ่มขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับมองว่าคุณภาพการศึกษาที่นักศึกษาได้รับจากสถาบันการศึกษากำลังลดลง

อย่างไรก็ตาม สถาบันการศึกษายังคงตระหนักถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าเล่าเรียนที่สูงขึ้น พฤติกรรมของนักศึกษาที่เปลี่ยนไป ประสิทธิผลของวิธีการสอน และผลกระทบจากสถานการณ์โควิด บทความนี้จึงขอรวบรวมแนวโน้มการศึกษาสมัยใหม่ที่น่าจับตามองไว้ด้วย

1. ภาระค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา

ค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนหลายคน ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นและงบประมาณจากภาครัฐที่ไม่เพียงพอ ทำให้ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบัน สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งเรียกเก็บค่าเล่าเรียนมากกว่าสองเท่าของปี 2008 (ข้อมูลจาก รัฐอลาบามาและแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยของรัฐบาล เพิ่มขึ้นมากกว่า 60%)

นอกจากนี้ นักศึกษาต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ เช่น หอพัก อาหาร หนังสือ และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอื่นๆ ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ สำหรับนักศึกษาที่เรียนออนไลน์ พวกเขาจะต้องเตรียมงบประมาณสำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานที่บ้านด้วย ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของการศึกษาระดับอุดมศึกษา บีบบังให้s]kpคนต้องลาออกจากการเรียนหรือไม่สามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีเลย

2. ส่วนลดค่าเล่าเรียนจากสถาบันเอกชน

สมาคมเจ้าหน้าที่ธุรกิจวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยแห่งชาติ (National Association of College and University Business Officers: NACUBO) เปิดเผยว่า ในปีการศึกษา 2017-2018 นักศึกษามหาวิทยาลัยและวิทยาลัยเอกชนได้รับทุนการศึกษาแบบลดหย่อนค่าเล่าเรียนสูงเกินกว่า 50% (Inside Higher Ed, 2019) และในปีการศึกษาถัดมา เพิ่มขึ้นเป็น 52%

สถาบันเอกชนใช้กลยุทธ์นี้เพื่อดึงดูดนักเรียนให้มาศึกษาต่อ นอกจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-
19 บางวิทยาลัยเอกชนยังตัดสินใจคงค่าเล่าเรียนและยิ่งไปกว่านั้น คือลดค่าเล่าเรียนลงสำหรับปีการศึกษา 2021-2022 เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ประสบปัญหา (CNBC, 2020)

สถาบันเอกชนมักเสนอส่วนลดค่าเล่าเรียนแทนที่จะลดค่าเล่าเรียนโดยรวม นอกจากนี้ นักจิตวิทยาพบว่า 40% ของนักเรียนและครอบครัวจะเลือกสถาบันที่มีส่วนลดค่าเล่าเรียน มากกว่าวิทยาลัยอีกแห่งที่มีค่าเล่าเรียนโดยรวมต่ำกว่า เหตุผลนี้อาจเป็นเพราะราคาที่สูงกว่าถูกตีความว่าเป็นสัญญาณของการมีคุณภาพ หลายคนคิดว่า ราคายิ่งแพง คุณภาพการศึกษายิ่งดี

3. โครงสร้างประชากรนักศึกษาเปลี่ยนแปลง

ปัจจุบัน นักเรียนมัธยมปลายจำนวนมากขึ้นสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยไม่ติดภาระด้านการทำงานประจำหรือภาระครอบครัว ส่งผลให้โครงสร้างของนักศึกษาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มนักศึกษาวัยรุ่นอายุ 18 ถึง 22 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาแบบดั้งเดิม มีจำนวนคงที่หรือลดลง ส่งผลให้ความต้องการและพฤติกรรมของนักศึกษาก็เปลี่ยนไปด้วย จากข้อมูลสถิติของ Gen Z จะเห็นว่า กลุ่มคนรุ่นนี้กำลังเข้ามาแทนที่ Millennials ในรั้วมหาวิทยาลัย

นักศึกษายุค Gen Z มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและชนกลุ่มน้อยมากขึ้น ทำให้ประชากรนักศึกษามีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ นักศึกษายุค Gen Z ยังมุ่งเน้นการศึกษาต่อมากขึ้น โดยประมาณ 59% ของนักเรียนมัธยมปลายอายุ 18 ถึง 20 ปี อยู่ในระบบการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และส่วนใหญ่เห็นว่าปริญญาตรีมีความสำคัญ

ด้วยการเติบโตของการเรียนออนไลน์ในปี 2021 ข้อมูลชี้ให้เห็นว่านักศึกษาออนไลน์มีทั้งกลุ่มอายุน้อยกว่าและมากกว่านักศึกษาแบบดั้งเดิม จากการสำรวจ พบว่า 47% ของผู้บริหารโรงเรียน ระบุว่า อายุเป็นแนวโน้มที่สำคัญที่สุดที่พวกเขาสังเกตเห็นในโครงสร้างประชากรนักเรียนออนไลน์ 25% ของผู้บริหารโรงเรียน ระบุว่า พวกเขาเห็นนักเรียนนอกระบบการศึกษาที่เป็นผู้ใหญ่จำนวนมากขึ้น ขณะที่ 20% พบว่ามีนักเรียนอายุน้อยลงเพิ่มมากขึ้น (BestColleges, 2020)

ดังนั้น ผู้นำด้านการศึกษาจึงต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในโครงสร้างประชากร และพยายามปรับระบบการศึกษาที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับความต้องการของคนรุ่นใหม่

4. รองรับนักศึกษานอกระบบ

นักศึกษานอกระบบคิดเป็นเกือบ 75% ของนักศึกษาเกือบ 20 ล้านคนที่กำลังศึกษาอยู่ในระบบการศึกษาระดับหลังมัธยมศึกษา (NCES, 2020) ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นคือ นักศึกษามหาวิทยาลัยเต็มเวลา 7 ใน 10 คน ต้องทำงานพิเศษไปด้วยเพื่อหาเลี้ยงชีพ (มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์, 2018) สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้สถาบันการศึกษามุ่งเน้นการใช้รูปแบบการนำเสนอบทเรียนที่หลากหลายมากขึ้น

เนื่องจากมีผู้สมัครนักศึกษาดั้งเดิมลดลง สถาบันอุดมศึกษาจึงต้องปรับตัวเพื่อดึงดูดนักศึกษานอกระบบมากขึ้น สถาบันการศึกษาเหล่านี้กำลังมุ่งไปที่การสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น เพื่อรองรับความต้องการทางการศึกษาของนักศึกษานอกระบบ ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ

 

5. การศึกษาออนไลน์

การศึกษาออนไลน์เป็นหนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เติบโตเร็วที่สุด และด้วยอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การศึกษาออนไลน์ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของจำนวนผู้ลงทะเบียนเรียนในระดับหลังมัธยมศึกษา

ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เผยว่า นักศึกษามีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษาออนไลน์มากขึ้น การศึกษาออนไลน์มอบประโยชน์ต่างๆ ที่ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียนแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น ช่วยให้นักศึกษามีทางเลือกที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้พวกเขาสามารถเรียนวิชาต่าง ๆ ไปพร้อมกับการบริหารจัดการภาระหน้าที่อื่น ๆ ได้

การเปลี่ยนไปเรียนแบบออนไลน์ยังจะทำให้สถาบันการเรียนควรต้องปรับเว็บไซต์ให้ใช้งานบนมือถือได้สะดวกยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีโดยรวม เนื่องจากนักศึกษาไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใดเป็นการเฉพาะ สถาบันการศึกษาจึงต้องปรับรูปแบบการเรียนให้ค้นหาได้ง่าย เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน (Annertech, 2020)

เทคโนโลยี VR คาดว่าจะมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดื่มด่ำ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาข้อจำกัดด้านการเว้นระยะทางทางสังคม เช่น การจัดทัวร์ชมมหาวิทยาลัย การจัดงานวันเปิดบ้าน และพิธีรับปริญญา (Annertech, 2020)

6. การรับสมัครนักศึกษานานาชาติ

เพื่อแก้ไขปัญหานักศึกษาลดลง สถาบันอุดมศึกษาจึงรับสมัครนักศึกษานานาชาติอย่างจริงจังมากขึ้น การใช้ประโยชน์จากกิจกรรมนักศึกษานานาชาติสามารถช่วยสร้างรายได้ใหม่ ๆ การรับสมัครนักศึกษานานาชาติมากขึ้นและส่งเสริมความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสายตาชาวโลก

นอกจากนี้ การรับสมัครนักศึกษานานาชาติ นำไปสู่กลุ่มนักศึกษาที่มีความหลากหลาย ช่วยให้เกิดบริบททางวัฒนธรรมใหม่ ๆ ซึ่งเมื่อบูรณาการเข้ากับหลักสูตรปัจจุบัน จะช่วยเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถแข่งขันในเศรษฐกิจโลกได้ดียิ่งขึ้น

7. ผู้ให้บริการจัดการโปรแกรมการเรียนรู้แบบออนไลน์ (OPMs)

การเติบโตของซอฟต์แวร์อีเลิร์นนิง ปูทางสู่เส้นทางใหม่สำหรับองค์กรผู้ให้บริการจัดการโปรแกรมการเรียนรู้แบบออนไลน์ (Online Program Management Organizations: OPMs)

มหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมมือกับบริษัทพันธมิตร พัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้แบบออนไลน์ ในขณะที่ OPMs เป็นผู้จัดหาแพลตฟอร์มสำหรับให้นักศึกษาเข้าเรียนหลักสูตรเหล่านั้น

มหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา เปิดสอนปริญญาออนไลน์ผ่านผู้ให้บริการ OPMs ระบุว่า OPMs มักจะหักส่วนแบ่งค่าเล่าเรียน 60% หรือมากกว่า และคาดการณ์ว่ามูลค่าทางตลาดของ OPMs และบริการที่เกี่ยวข้องจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

8. ความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษา

สถาบันการศึกษากำลังร่วมมือกับภาคธุรกิจเพื่อให้แน่ใจว่านักศึกษาจะมีทักษะที่เป็นที่ต้องการสอดคล้องกับงานในอนาคต บริษัทเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยและใช้เครือข่ายอันกว้างขวางของตนเองเพื่อช่วยให้ตน ปิดช่องว่างด้านทักษะด้านเทคโนโลยีในกำลังคนที่องค์กรของตนกำลังขาดอยู่

9. เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา

ภาระหนี้สินจากเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษามีราคาแพงขึ้น ภาระหนี้สินจากเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก็พุ่งสูงขึ้น

10. การระดมทุนเพิ่มขึ้น

การลดลงของเงินทุนจากภาครัฐ ทำให้ภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องพยายามระดมทุนมากขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้ความสำคัญกับการรณรงค์เพื่อเพิ่มทุนมากขึ้น เมื่อเงินทุนจากภาครัฐลดลง ผู้นำทางการศึกษาและผู้กำหนดนโยบายจึงมุ่งเน้นไปที่การหาเงินบริจาคจากภาคเอกชน

11. ระบบการจัดการการเรียนรู้ (LMS)

ระบบการจัดการการเรียนรู้สำหรับโรงเรียน (Learning Management Systems: LMS) สร้างระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษา ตอนนี้ นักการศึกษาและผู้บริหารใช้ LMS เพื่อพัฒนาและเผยแพร่เนื้อหาของหลักสูตรได้ดียิ่งขึ้น แอปพลิเคชันเหล่านี้ยังมีประโยชน์ในการติดตามความก้าวหน้าของนักศึกษา แม้ว่าโซลูชัน LMS ส่วนใหญ่จะรองรับเฉพาะองค์กร แต่ปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม LMS ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการศึกษาระดับอุดมศึกษาแล้ว

12. การศึกษาแบบเน้นสมรรถนะ (Competency-Based Education: CBE)

แนวโน้มใหม่ของการใช้หลักสูตร CBE ในภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษานำเสนอคุณค่าใหม่ให้กับสถาบันต่าง ๆ มากมาย โดยการใช้แผนการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นไปที่สมรรถนะโดยเฉพาะ นักศึกษาจำเป็นต้องเรียนจบทุกวิชาหรือโปรแกรมเพื่อเลื่อนชั้นจากหน่วยการเรียนหนึ่งไปยังอีกหน่วยการเรียนหนึ่ง ช่วยให้ผู้เรียนนอกระบบการศึกษาสามารถเข้าถึงโปรแกรมการเรียนได้ง่ายขึ้น และได้รับประโยชน์ที่หลากหลาย

13. โปรแกรม MicroMasters

โปรแกรม MicroMasters คือ หลักสูตรระดับปริญญาโท ที่นำเสนอผ่านทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น โดยหลักสูตรเหล่านี้เทียบเท่ากับโปรแกรมปริญญาโท เน้นการเรียนรู้เฉพาะทางในหัวข้อวิชาชีพต่าง ๆ

14. เงินเดือนของอาจารย์มหาวิทยาลัย

เงินเดือนเฉลี่ยของอาจารย์มหาวิทยาลัยนั้น มีรายได้ค่อนข้างสูงแต่กว่าจะได้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยนั้น ต้องใช้เวลานานอย่างน้อยแปดปีในการศึกษาต่อหลังปริญญาเอกและประสบการณ์การทำงาน ดังนั้น อาจารย์ที่เคยมีประสบการณ์การทำงานนอกสายวิชาการหลายปี มีโอกาสที่จะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมากกว่า

15. สาขาวิชาที่นิยมมากที่สุด - น้อยที่สุด

ปริญญาของมหาวิทยาลัยนำไปสู่โอกาสมากมายในด้านอาชีพ ดังนั้น สำหรับนักศึกษาหลายคน ที่เลือกหลักสูตรในมหาวิทยาลัยต้องใช้การเตรียมตัวและพิจารณาอย่างรอบคอบ กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐอเมริการะบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกหลักสูตรในมหาวิทยาลัยของนักศึกษานั้น คือคุณภาพทางวิชาการ สาขาวิชาต้องการ  และตลาดแรงงาน

16. การศึกษาระดับอุดมศึกษาตามประเทศ

ทักษะการสอน หลักการ และกฎระเบียบของการศึกษา ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของการศึกษาระดับอุดมศึกษาของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ ทักษะการประเมินผลและสื่อการสอนที่เหมาะสม ยังส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาของประเทศอีกด้วย

แต่ละประเทศต่างลงทุนในระบบการศึกษาของตนเอง โดยหวังว่าบัณฑิตจบใหม่จำนวนมากจะผลักดันให้เศรษฐกิจของตนเองก้าวไปสู่ความรุ่งเรือง โดยพิจารณาจาก ความแข็งแกร่งของระบบ การเข้าถึง สถาบันชั้นนำ และบริบททางเศรษฐกิจ

17. การบริหารภายในมหาวิทยาลัย

ภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษา ของสหรัฐอมเริกา พบว่า ระยะเวลาดำรงตำแหน่งเฉลี่ยของผู้บริหารระดับสูงลดลง จากเดิม 7 ปี เหลือเพียง 5 ปีหรือน้อยกว่านั้น สาเหตุนี้เกิดจากความต้องการและแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นที่ผู้บริหารระดับสูงต้องรับมือ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนจากภาครัฐ จำนวนนักศึกษาลดลง และโครงสร้างประชากรนักศึกษาที่เปลี่ยนไป

18. การปิดมหาวิทยาลัยและการควบรวมกิจการ

จำนวนสถาบันอุดมศึกษาที่ปิดตัวลงยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้จะมีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาระดับอุดมศึกษา แต่ก็ยังมีปัจจัยหลายประการที่คุกคามสุขภาพทางการเงินของสถาบัน มีการระบุว่า มหาวิทยาลัยขนาดเล็กมีความเสี่ยต่อความท้าทายเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญมากกว่าสถาบันที่มีนักศึกษามากกว่า 1,000 คน จำนวนนักศึกษาลดลง กฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น งบประมาณที่ตึงตัว และการขาดเงินทุนจากภาครัฐ เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการปิดตัวลงทั่วโลก

19. บิล เกตส์ กับอุดมศึกษา

บิล เกตส์ เริ่มให้ความสำคัญกับการศึกษาตั้งแต่ปี 2000 เขาและภรรยาเชื่อว่า พวกเขาสามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างความสำเร็จในระดับอุดมศึกษาของนักศึกษาผิวสี นักศึกษาฐานะยากจน และนักศึกษาคนอื่น ๆ นำไปสู่การก่อตั้ง มูลนิธิ Bill & Melinda Gates

มูลนิธิเกตส์ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อประเมินคุณค่าของปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตร โดย คณะกรรมการคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา (The Postsecondary Value Commission) มีเป้าหมายที่จะจัดหาเครื่องมือวัดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของปริญญาบางประเภท

นอกจากนี้ คณะกรรมการจะพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้วย ซึ่งรวมถึง ปัจจัยทางเศรษฐกิจและรายได้หลังเรียนจบ รวมถึงความแตกต่างของรายได้ตามประเภทของปริญญา หนี้สินนักศึกษา และการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ

 

ที่มา : Nestor Gilbert - financesonline.com
เรียบเรียงและแปลโดย
: สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

13 มิถุนายน 2567 171
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ